ถ้าฝั่งจีนมีซีรีส์ย้อนยุคที่มาจัดเต็มยาวเหยียดตลอดปี ฝั่งเกาหลีก็ไม่น้อยหน้า!เพราะขนทัพซีรีส์ย้อนยุคมาเสิร์ฟแบบรัว ๆ ทั้งแนวรักโรแมนติกละมุนหัวใจ คอมเมดี้เบาสมองดูแล้วยิ้มไม่หยุด แฟนตาซีสุดหลุดโลก ไปจนถึงดราม่าการเมืองเข้มข้น และเรื่องราวการแก้แค้นสุดเดือดที่ดูแล้วต้องร้องโอ้โห! ใครกำลังมองหาซีรีส์ที่ดูแล้วอินทุกตอน หยุดไม่ได้จริง ๆ บอกเลยลิสต์นี้ควรค่าแก่การตามเก็บให้ครบทุกเรื่อง เตรียมชุดฮันบกให้พร้อม แล้วมานั่งดูไปด้วยกันกับ 13 ซีรีส์ย้อนยุคเกาหลี ของปี 2025 มาแบบครบรส ฟิน ดุ ดราม่า รับรองว่าฟินยันเช้าแบบไม่รู้ตัว
1.Check in Hanyang
เช็กอินหัวใจที่ยองชอนรู กับ Check in Hanyang ซีรีส์ย้อนยุคฟีลดีที่ดูแล้วอบอุ่นใจ ขอต้อนรับสู่ยองชอนรู เกสต์เฮ้าส์สุดคึกคักกลางเมืองฮันยาง ที่กลายเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวสุดละมุนใน Check in Hanyang ซีรีส์ย้อนยุคที่เล่าเรื่องราวของพนักงานทั้ง 4 คนที่มาทำงานด้วยเหตุผลต่างกัน แต่กลับเชื่อมโยงกันด้วยมิตรภาพและความฝัน อีอึน (แบอินฮยอก) องค์ชายที่ซ่อนตัวจากวังหลวง, ฮงดอกซู (คิมจีอึน) หญิงสาวที่ปลอมเป็นชายเพื่อหางาน, ชอนจุนฮวา (จองกอนจู) ลูกคุณหนูที่ถูกบังคับให้เรียนรู้ชีวิตจริง และโกโซรา (พัคแจชาน) หนุ่มน้อยผู้มีความฝันอยากเป็นขุนนาง ทุกตัวละครต่างมีเส้นทางของตัวเอง แต่เมื่อมาอยู่ร่วมกันในเกสต์เฮ้าส์แห่งนี้ ความสัมพันธ์ ความรัก และบทเรียนชีวิตก็เริ่มเบ่งบานอย่างไม่ทันตั้งตัว ดูแล้วทั้งอิ่มใจและได้แง่คิดดี ๆ แบบไม่ต้องเครียด เหมาะสำหรับคนที่อยากพักใจจากซีรีส์ดราม่าหนัก ๆ แล้วมาเติมความอบอุ่นให้หัวใจ
- แนวเรื่อง : ย้อนยุค / ดราม่าชีวิต / โรแมนติกละมุน / วัยรุ่นฟีลดี
- ความยาว : 16 ตอนเต็มอิ่ม
- เริ่มออกอากาศ : ธันวาคม 2024
- รับชมได้ทาง : Netflix
2.Tale of Lady Ok
ตำนานแม่นางอ๊ก Tale of Lady Ok ซีรีส์ย้อนยุคสุดเข้มข้นของหญิงสาวผู้ไม่ยอมแพ้โชคชะตา ในโลกที่ชนชั้นคือทุกสิ่ง เธอคือทาสผู้ถูกกดขี่ แต่ไม่เคยยอมจำนนต่อความอยุติธรรม Tale of Lady Ok พาเราย้อนกลับไปสู่ยุคโชซอน ผ่านเรื่องราวของหญิงสาวผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ที่ใช้ความรู้ช่วยเหลือผู้คนแม้ตัวเองจะอยู่ในจุดต่ำสุดของสังคม แต่แล้วโชคชะตาก็พลิกผัน เธอกลายเป็นหญิงสูงศักดิ์ในตระกูลขุนนาง พร้อมความลับที่ไม่มีใครรู้ชื่อสามีและสถานะของเธอ ล้วนเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมา นำแสดงโดยอิมจียอนกับบทบาทหญิงแกร่งที่เต็มไปด้วยความสดใส และชูยองอู พระเอกดาวรุ่งที่มาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวสุดสะเทือนใจ ซีรีส์เรื่องนี้ตีแผ่ความเหลื่อมล้ำในสังคม ถ่ายทอดความเจ็บปวดและความหวังได้อย่างลึกซึ้ง ดูแล้วทั้งสงสาร ทั้งเอาใจช่วย และอินไปกับทุกการตัดสินใจของนางเอก เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ควรค่าแก่การตามดูแบบไม่ให้หลุดสักตอน
- แนวเรื่อง : ย้อนยุค / ดราม่าชีวิต / โรแมนติกเข้มข้น
- ความยาว : 16 ตอน
- เริ่มออกอากาศ : พฤศจิกายน 2024
- รับชมได้ทาง : Viu และ Netflix
3. Jeongnyeon : The Star is Born
เตรียมพบกับเรื่องราวของยุนจองนยอน เด็กสาวจากเมืองมกโพที่เกิดในยุคหลังสงครามเกาหลี พร้อมพรสวรรค์ด้านการร้องเพลงที่ถูกแม่ห้ามไม่ให้ใช้ Jeongnyeon : The Star is Born พาเราย้อนกลับไปสู่ยุคที่เสียงเพลงคือความหวัง และเวทีคือพื้นที่แห่งการเปลี่ยนชีวิต วันหนึ่งเธอได้หลงเข้าไปในคณะละครเวทีหญิงแห่งชาติ จุดไฟในใจให้ลุกโชนอีกครั้ง แม้ไม่มีพื้นฐานด้านการแสดงหรือการร้องเลย แต่ด้วยความฝันอยากมีชื่อเสียงและชีวิตที่ดีกว่า เธอจึงเริ่มต้นเส้นทางที่เต็มไปด้วยอุปสรรค ความพยายาม และการเติบโต ซีรีส์เรื่องนี้ถ่ายทอดความมุ่งมั่นของคนธรรมดาที่กล้าฝัน ผ่านการแสดงอันทรงพลังของคิมแทรี ที่ทุ่มเทฝึกซ้อมนานกว่า 3 ปี เพื่อบทนี้โดยเฉพาะ ดูแล้วเหมือนได้นั่งอยู่หน้าเวทีจริง ๆ ทั้งซึ้ง ทั้งอิน และเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ
- แนวเรื่อง : ดราม่าเข้มข้น / ชีวิตจริง / วัยรุ่นไฟแรง / ดนตรีปลุกใจ
- ความยาว : 12 ตอน
- เริ่มออกอากาศ : ตุลาคม 2024
- รับชมได้ทาง : Disney+ Hotstar
4. Queen Woo
ถ้าพูดถึงซีรีส์ย้อนยุคที่ทั้งดุ เดือด และดึงดูดทุกสายตา ต้องยกให้ Queen Woo เรื่องนี้เลย! ซีรีส์อิงประวัติศาสตร์ที่เปิดตัวแรงตั้งแต่วันแรกที่สตรีม ด้วยโปรดักชันสุดอลังการ เนื้อหาจัดเต็ม และฉากแอ็คชั่นที่ทั้งเลือดสาดและแซ่บซี้ดจนคว้าเรต 21+ ในเกาหลี เรื่องราวของอูฮี (จอนจงซอ) หญิงสาวผู้เฉลียวฉลาดและงดงาม ที่ต้องเผชิญกับ 24 ชั่วโมงสุดพลิกชีวิตหลังพระราชาโกนัมมู (จีชางอุค) สิ้นพระชนม์อย่างกะทันหัน เธอต้องรับมือกับการแย่งชิงอำนาจจากทุกทิศทาง ท่ามกลางเกมการเมืองที่โหดร้ายและอันตรายทุกฝีก้าว ซีรีส์เรื่องนี้ไม่เพียงแต่ลุ้นระทึกทุกตอน แต่ยังสะท้อนภาพของอำนาจ ความทะเยอทะยาน และการเอาตัวรอดในโลกที่เต็มไปด้วยศัตรู เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ดูแล้วต้องกลั้นหายใจตามทุกฉาก
- แนวเรื่อง : ย้อนยุคเข้มข้น / แอ็คชั่นดุเดือด / ดราม่าการเมือง
- ความยาว : 8 ตอน
- เริ่มออกอากาศ : สิงหาคม 2024
- รับชมได้ทาง : Viu
5. Missing Crown Prince
Missing Crown Prince แผนลักป่วนบัลลังก์ ซีรีส์ย้อนยุคสุดปั่นที่ทั้งลุ้น ทั้งฮา ครบรสทุกตอน เมื่อโชคชะตาเล่นตลกกับรัชทายาทแห่งโชซอน Missing Crown Prince พาเราเข้าสู่เรื่องราวสุดวุ่นวายขององค์ชายหนุ่มที่ถูกลักพาตัวไปทำพิธีสะเดาะเคราะห์กับลูกสาวหมอหลวง หญิงสาวผู้มีดวงชะตาสุดพีค ต้องกลายเป็นแม่หม้ายตั้งแต่ยังไม่ทันแต่งงาน! พล็อตแย่งชิงบัลลังก์สุดเข้มข้นที่เต็มไปด้วยการเชือดเฉือนทางการเมือง แต่ก็ไม่ลืมใส่มุกตลกเบรกอารมณ์ให้ดูเพลินแบบไม่เครียดเกินไป นำแสดงโดยซูโฮ EXO กับบทองค์ชายสุดหล่อ ประกบคู่ฮงเยจี นางเอกสาวที่เคมีเข้ากันสุด ๆ พร้อมด้วย คิมมินกยู ดาวรุ่งมาแรงที่มาเติมสีสันให้เรื่องราวกลมกล่อมยิ่งขึ้น ซีรีส์เรื่องนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบแนวพีเรียดแบบมีทั้งดราม่าและคอมเมดี้ ดูแล้วทั้งลุ้น ทั้งหัวเราะ และอินไปกับความสัมพันธ์ที่ค่อย ๆ เติบโตท่ามกลางเกมการเมืองสุดซับซ้อน
- แนวเรื่อง : ย้อนยุควุ่น ๆ / โรแมนติกฟีลดี / คอมเมดี้เบรกดราม่า / การเมืองเชือดเฉือน
- ความยาว : 20 ตอน
- เริ่มออกอากาศ : มิถุนายน 2024
- รับชมได้ทาง : Mono Max
6. Love Song for Illusion
Love Song for Illusion เมื่อรักต้องห้ามกลายเป็นรักแท้ ซีรีส์ย้อนยุคสุดแฟนตาซีที่ทั้งลุ้น ทั้งละมุน มาพร้อมเรื่องราวที่จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อหญิงสาวนักฆ่าถูกส่งมาเพื่อสังหารรัชทายาท แต่กลับตื่นขึ้นมาในฐานะสนมของเขา แถมยังความจำเสื่อม! Love Song for Illusion ซีรีส์จากเว็บตูนชื่อดัง พาเราดำดิ่งสู่โลกแห่งความรัก ความลวง และความลับที่ซ่อนอยู่ในวังหลวง ซาโจฮยอน หรืออักฮี (พัคจีฮุน) รัชทายาทหนุ่มผู้มีสองบุคลิกสุดขั้ว อ่อนโยนกับดุดันในคนเดียวกัน ต้องเผชิญหน้ากับยอนวอล (ฮงเยจี) นักฆ่าสาวที่กลายเป็นสนมโดยไม่ตั้งใจ เรื่องราวสุดชุลมุนที่เต็มไปด้วยความลึกลับ ความรัก และการค้นหาตัวตน ดำเนินเรื่องกระชับ สนุกไม่ยืดเยื้อ แถมเคมีนักแสดงนำก็ปังจนคนดูอินตามทุกตอน ซีรีส์เรื่องนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบแนวพีเรียดแฟนตาซี มีความโรแมนติกแบบไม่ซ้ำใคร และพล็อตที่หักมุมจนเดาไม่ถูก ดูแล้วทั้งฟิน ทั้งลุ้น และเต็มไปด้วยเสน่ห์เฉพาะตัว
- แนวเรื่อง : ย้อนยุคแฟนตาซี / ดราม่าความรัก / โรแมนซ์ลึกลับ
- ความยาว : 16 ตอน
- เริ่มออกอากาศ : มกราคม 2024
- รับชมได้ทาง : TrueVisions
7. Knight Flower
Knight Flower อัศวินบุบฝา ซีรีส์ย้อนยุคสุดป่วนของแม่หม้ายสายบู๊ ที่ทั้งฮา ทั้งอบอุ่น เมื่อผู้หญิงในยุคโชซอนไม่ใช่แค่แม่บ้านแม่เรือน แล้วจะเกิดอะไรขึ้น? โดยเป็นเรื่องราวของโจยอฮวา (อีฮานี) สะใภ้ตระกูลขุนนางที่ใช้ชีวิตเรียบง่ายมานานกว่า 15 ปีหลังสามีเสียชีวิต แต่เบื้องหลังความสงบคือภารกิจลับยามค่ำคืน เธอแอบออกไปช่วยเหลือผู้คนที่เดือดร้อนแบบไม่ให้ใครรู้ วันหนึ่งเธอได้พบกับพัคซูโฮ (อีจงวอน) นายทหารหนุ่มผู้เก่งกาจด้านการต่อสู้ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวสุดวุ่นวายที่ทั้งฮา ทั้งอบอุ่น ทั้งลุ้นไปกับภารกิจของแม่หม้ายสายบู๊คนนี้ แม้พล็อตจะดูจริงจัง แต่ซีรีส์เรื่องนี้กลับเต็มไปด้วยมุกตลกจังหวะดี ดูแล้วหัวเราะได้แบบไม่ฝืน พร้อมแทรกประเด็นสังคมเกี่ยวกับบทบาทของผู้หญิงในยุคโชซอนได้อย่างแยบยล เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ดูแล้วทั้งสนุก ทั้งได้แง่คิดแบบไม่ต้องเครียด
- แนวเรื่อง : ย้อนยุคสายบู๊ / คอมเมดี้จังหวะเป๊ะ / โรแมนซ์ละมุน / สืบสวนเบา ๆ
- ความยาว : 12 ตอน
- เริ่มออกอากาศ : มกราคม 2024
- รับชมได้ทาง : TrueVisions และ Netflix
8. Captivating the King
เมื่อความรักต้องเผชิญกับเกมอำนาจ Captivating the King พาเราดำดิ่งสู่เรื่องราวของอีอิน (โจจองซอก) กษัตริย์ผู้ถูกล้อมด้วยศัตรูทางการเมือง และคังฮีซู (ชินเซคยอง) หญิงสาวผู้เข้ามาเยียวยาหัวใจ แต่เบื้องหลังกลับเป็นสายลับที่มีเป้าหมายคือการล้างแค้น ซีรีส์เรื่องนี้เต็มไปด้วยฉากการเมืองสุดดุเดือด การแย่งชิงบัลลังก์ที่ไม่มีใครไว้ใจใคร ผสมผสานกับความรักที่ทั้งขมและซับซ้อน จนคนดูต้องลุ้นทุกตอนว่าจะจบลงอย่างไร แม้ช่วงแรกจะดำเนินเรื่องแบบเนิบ ๆ แต่ยิ่งดูยิ่งเข้มข้น จนหยุดดูไม่ได้ ด้วยการแสดงอันทรงพลังของนักแสดงนำ และบทที่ตีแผ่ความสัมพันธ์อันเปราะบางท่ามกลางอำนาจและความแค้น Captivating the King คือซีรีส์ที่ทั้งสะเทือนใจและน่าติดตามแบบไม่ควรพลาด
- แนวเรื่อง : ย้อนยุคเข้มข้น
- ความยาว : 16 ตอน
- เริ่มออกอากาศ : มกราคม 2024
- รับชมได้ทาง : Netflix
9. The First Night With the Duke
ถ้าเคยฝันว่าอยากหลุดเข้าไปในโลกนิยายสุดโปรด The First Night With the Duke จะทำให้ฝันนั้นเป็นจริง! เรื่องราวของนักศึกษาสาวธรรมดาคนหนึ่งที่จู่ ๆ ก็หลุดเข้าไปในนิยายโรแมนซ์ กลายเป็นตัวประกอบที่ไม่มีบท แต่กลับตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าพระเอกสุดหล่อของเรื่องนอนอยู่ข้าง ๆ แบบไม่ทันตั้งตัว จากนั้นเธอจึงต้องสวมบทนางเอกจำเป็น ท่ามกลางเหตุการณ์สุดชุลมุนที่พลิกพล็อตไปไกลเกินคาดเดา ทั้งความรัก ความวุ่นวาย และความฮาแบบจัดเต็ม นำแสดงโดยซอฮยอน และอ๊กแทคยอน คู่ไอดอลตัวท็อปที่เคมีดีต่อใจจนคนดูต้องฮ็อบแรงทุกตอน ซีรีส์เรื่องนี้เหมาะสำหรับคนที่อยากพักใจจากดราม่าหนัก ๆ แล้วมาฟินกับความรักแบบเบาสบาย ดูแล้วยิ้มตามแบบไม่ต้องคิดเยอะ แถมยังมีมุกตลกน่ารักให้หัวเราะได้ตลอดทาง
- แนวเรื่อง : แฟนตาซีหลุดโลก / โรแมนซ์จิ้นแรง / คอมเมดี้เบาสมอง
- ความยาว : 12 ตอน
- เริ่มออกอากาศ : มิถุนายน 2025
- รับชมได้ทาง : Viu
10. Dear Hongrang
เตรียมดำดิ่งสู่โลกแห่งความลับและคำถามที่ยังไร้คำตอบใน Dear Hongrang ซีรีส์ย้อนยุคที่เล่าเรื่องราวของทายาทตระกูลพ่อค้าเศรษฐีที่หายตัวไปตั้งแต่เด็ก แต่กลับปรากฏตัวอีกครั้งในวัยหนุ่ม พร้อมความทรงจำที่หายไป ทำให้ทุกคนตั้งคำถามว่าเขาคือคนเดิมจริงหรือไม่ เรื่องราวเข้มข้นที่เต็มไปด้วยความสัมพันธ์อันคลุมเครือ ความลับที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังรอยยิ้ม และการค้นหาความจริงที่อาจเปลี่ยนทุกอย่าง นำแสดงโดยอีแจอุค กับบทชายหนุ่มผู้มีเสน่ห์ลึกลับ ประกบคู่โจโบอา เสริมทัพด้วยจองการัมและอึมจีวอน ที่มอบการแสดงอันทรงพลังทุกฉาก ซีรีส์เรื่องนี้โดดเด่นทั้งด้านโปรดักชันที่อลังการ และบทที่ชวนให้ติดตามทุกตอน เหมาะสำหรับคนที่ชอบแนวเมโลดราม่าลึกลับ ที่ทั้งสะเทือนใจและชวนให้ตั้งคำถามตลอดทาง
- แนวเรื่อง : ลึกลับย้อนยุค / โรแมนซ์ซ่อนเงื่อน / เมโลดราม่าหนักอารมณ์
- ความยาว : 11 ตอน
- เริ่มออกอากาศ : พฤษภาคม 2025
- รับชมได้ทาง : Netflix
11. The Haunted Palace
ถ้าใครกำลังมองหาซีรีส์ที่มีทั้งความรัก ความลี้ลับ และความฮาแบบลงตัว ต้องลองดู The Haunted Palace เรื่องราวของเทพเจ้ามังกรสุดเกรียนที่ต้องร่วมมือกับร่างทรงหญิงอันดับหนึ่งแห่งยุคโชซอน เพื่อปราบเหล่าภูติผีปีศาจที่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นต่อราชวงศ์ นำแสดงโดย ยุกซองแจ กับบทเทพเจ้าสุดทะเล้น และคิมจียอน หรือโบนา WJSN ที่รับบทร่างทรงสาวสุดแกร่ง เคมีของทั้งคู่ดีงามจนกลายเป็นคู่จิ้นที่คนดูเทใจให้แบบไม่ต้องคิดเยอะ เรื่องนี้ไม่เพียงแต่สนุกและน่ารัก แต่ยังมีฉากแฟนตาซีอลังการ และมุกตลกที่มาได้จังหวะพอดี ดูแล้วทั้งฟิน ทั้งหัวเราะ ทั้งลุ้นไปกับภารกิจปราบผีสุดป่วน ซีรีส์เรื่องนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบแนวพีเรียดแฟนตาซีแบบไม่เครียดมาก มีความน่ารักแทรกอยู่ทุกตอน และพล็อตที่ไม่ซ้ำใคร ดูแล้วเพลินจนหยุดดูไม่ได้
- แนวเรื่อง : โรแมนซ์แฟนตาซี / คอมเมดี้ลี้ลับ / ย้อนยุคเบาสนุก
- ความยาว : 16 ตอน
- เริ่มออกอากาศ : เมษายน 2025
- รับชมได้ทาง : Netflix และ Viu
12. Scandal of Chunhwa
เตรียมใจให้พร้อมกับ Scandal of Chunhwa ซีรีส์ย้อนยุคเรต 19+ ที่ทั้งเผ็ด ทั้งซี้ด เล่าเรื่องขององค์หญิงฮวารี (โกอารา) สาวมั่นหัวก้าวหน้า ผู้กล้าท้าทายขนบเก่า ๆ เพื่ออิสรภาพในความรัก เธอได้พบกับชเวฮวาน (จางรยุล) พ่อค้าหนุ่มผู้ร่ำรวยและเจ้าชู้ ที่ซ่อนความลับบางอย่างไว้ และจางวอน (คังชานฮี) บัณฑิตหลวงผู้มีใจให้เธออย่างเงียบ ๆ เรื่องราวความรักสามเส้าสุดซับซ้อนที่เต็มไปด้วยแรงปรารถนา การท้าทายอำนาจ และการต่อสู้เพื่อสิทธิของผู้หญิงในยุคโชซอน ถ่ายทอดผ่านบทที่กล้าหาญและสะท้อนสังคมได้อย่างเฉียบคม ดูแล้วทั้งลุ้น ทั้งอิน ทั้งเอาใจช่วยองค์หญิงสุดแกร่งที่กล้าฉีกทุกกฎเพื่อความรักและเสรีภาพ ซีรีส์เรื่องนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบดราม่าเข้ม ๆ ผสมความโรแมนซ์แบบไม่จำกัดกรอบ พร้อมพลังหญิงที่มาเต็มทุกฉาก
- แนวเรื่อง : ดราม่าแรง / โรแมนซ์ซับซ้อน / พลังหญิงย้อนยุค
- ความยาว : 10 ตอน
- เริ่มออกอากาศ : กุมภาพันธ์ 2025
- รับชมได้ทาง : Monomax
13. The Queen Who Crowns
เตรียมเปิดบันทึกแห่งวังหลวงที่เต็มไปด้วยไฟแห่งอำนาจใน The Queen Who Crowns ซีรีส์ย้อนยุคอิงประวัติศาสตร์ที่เล่าเรื่องของวอนกยอง (ชาจูยอง) สตรีผู้เกิดในตระกูลขุนนางใหญ่แห่งยุคโครยอ ผู้มีทั้งความเฉลียวฉลาดและอิทธิพล เธออภิเษกกับอีบังวอน (อีฮยอนฮุค) ชายผู้มีความฝันจะขึ้นครองราชย์แทนพระราชบิดา แต่หลังจากได้อำนาจ เขากลับแต่งตั้งสนมมากมาย จนความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มแตกร้าว กลายเป็นศึกชิงไหวชิงพริบที่ทั้งรัก ทั้งแค้น ทั้งฟาดกันไม่ยั้ง เรื่องนี้เต็มไปด้วยเกมการเมืองสุดดุเดือด ความรักที่ซับซ้อน และการต่อสู้เพื่อรักษาอำนาจในวังหลวง ซีรีส์เรื่องนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบแนวพีเรียดดราม่าแบบจัดเต็ม ทั้งความรัก ความแค้น และการเมืองที่ไม่มีใครยอมใคร ดูแล้วลุ้นทุกตอน ฟาดทุกฉาก
- แนวเรื่อง : ย้อนยุคดราม่า / โรแมนซ์เข้มข้น / เกมการเมือง
- ความยาว : 12 ตอน
- เริ่มออกอากาศ : มกราคม 2025
- รับชมได้ทาง : True Visions
เตรียมตัวหลุดเข้าไปในโลกแห่งโชซอน กับลิสต์ซีรีย์เกาหลีย้อนยุคที่เราคัดมาให้แบบจัดเต็ม ครบทุกอารมณ์ ทั้งดราม่าการเมืองสุดเข้มข้นที่ฟาดฟันกันไม่ยั้ง ความรักฟีลละมุนที่ทำให้ใจเต้นแรง หรือมุกฮาเบาสมองที่ดูแล้วหัวเราะออกเสียงแบบไม่ต้องฝืน บรรยากาศในรั้ววังที่ทั้งงดงามและเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม จะทำให้คุณหลงรักแบบถอนตัวไม่ขึ้น แต่ละเรื่องมีเสน่ห์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นพล็อตการแย่งชิงอำนาจที่ลุ้นทุกตอน ตัวละครหญิงแกร่งที่กล้าท้าทายขนบธรรมเนียม หรือความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนจนเดาไม่ถูกว่าจะจบแบบไหน แถมยังได้เห็นแฟชั่นชุดฮันบกสวย ๆ โปรดักชันอลังการ และเคมีนักแสดงที่ดีงามจนกลายเป็นคู่จิ้นแห่งปี